ช่วงนี้จอร์เจียอยู่ในกระแสการท่องเที่ยวต่างประเทศที่มาแรงมาก บางคนอยากเที่ยวจอร์เจียเพราะได้ยินมาว่า สวยเหมือนยุโรป ราคาเอเชีย ก็อาจจะตั้งความหวังไว้สูงว่า จอร์เจียจะมีทุกสิ่งเหมือนประเทศที่พัฒนาแล้วในยุโรป แต่เมื่อมาเที่ยวจริงอาจจะไม่เป็นดังที่คาดหวังไว้ เพราะเข้าใจจอร์เจียไม่มากพอ วันนี้แอดมินขอเล่าให้ท่านรู้จักจอร์เจียในอีกแง่มุมหนึ่งเพื่อให้หลายท่านได้ใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนเดินทางมาเที่ยวจอร์เจียนะคะ
1) ไวน์
จอร์เจียเป็นประเทศแม่แห่งการผลิตไวน์ มีกรรมวิธีการหมักไวน์ที่เก่าแก่ถึง 8000 ปี เมื่อมีงานเลี้ยงฉลองคนจอร์เจียมักจะดื่มไวน์กันเป็นสิบลิตร ดังนั้นไวน์ที่นี่จึงมีราคาถูก (หลักสิบถึงหลักร้อยบาท) และความเข้มข้นอาจจะไม่เท่าไวน์ชาติอื่นๆ ไม่ควรคาดหวังว่ารสไวน์หลักร้อยของจอร์เจียจะนุ่มละมุนละไมเทียบเท่าไวน์หลักหมื่นของฝรั่งเศส (ใช้องุ่นต่างพันธ์ุ กรรมวิธีหมักต่างกัน ราคาต่างกัน รสไวน์ย่อมแตกต่างกัน)
2) สภาพบ้านเรือน
บริเวณย่านคนพักอาศัย จะมีตึกรามบ้านช่องเก่าอายุนับร้อยปี มีเสื้อผ้าตากเรียงราย เหล็กดัดเก่าขึ้นสนิม มีตึกโซเวียตเก่าๆ เรียงรายแถวย่านชานเมือง นั่นคือความดิบ ที่เราสามารถมองเห็นวิถีชีวิตของผู้คนในจอร์เจีย ประเทศที่เพิ่งได้รับเอกราชเมื่อ 28 ปีที่ผ่านมานี้ ดังนั้นอย่าคาดหวังว่าจะได้เห็นแต่ตึกหรูหราเรียงรายตลอดทั้งเมืองนะคะ
3) การขับรถ
สิ่งที่ต้องทำใจ คือ มารยาทในการขับรถของบางคนที่นี่ (แต่ไม่ใช่ทุกคน) ขับเร็ว ขับปาดซ้ายขวา บีบแตรไล่คันหน้า เลี้ยวโดยไม่เปิดไฟให้สัญญาณ ฯลฯ แอดมินขอให้ความเห็นในฐานะที่อยู่ที่นี่หลายปีว่า ถ้าเทียบกันกับบ้านเราแล้ว คนกรุงเทพฯ กลายเป็นขับรถดีขึ้นมาเลยค่ะ
4) บุหรี่
คนจอร์เจียสูบบุหรี่จัดทั้งผู้หญิงผู้ชาย มีคนเคยให้คำเปรียบเปรยว่า คนที่นี่สูบบุหรี่เหมือนรถไฟ ดังนั้นท่านใดที่แพ้ควันบุหรี่ จะต้องเตรียมตัวว่า ท่านจะต้องพบในที่สาธารณะ ตามท้องถนนอย่างแน่นอนค่ะ คนขับแท็กซี่ และคนขับรถตู้ต่างเมือง (บางคน) ขับไปสูบบุหรี่ไป นั่งรถด้วยทีไรเหมือนโดนรมควัน วิธีเลี่ยงคือหาเช่ารถพร้อมคนขับที่ไม่สูบบุหรี่ค่ะ
5) ขอทาน
ตอนโซเวียตล่ม (28 ปีก่อน) ทุกอย่างที่นี่เป็นศูนย์ ใครฝากเงินในธนาคารเท่าไหร่ก็ถอนมาใช้ไม่ได้ ผู้คนไม่มีไฟฟ้าใช้ติดต่อกัน 45 วัน บ้านไหนตั้งตัวได้ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายสิ่ง กว่าเศรษฐกิจในจอร์เจียจะฟื้นฟูมาถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ปัจจุบันผู้คนอดอยากยังคงปรากฏให้เห็น พวกเค้าลำบากจริงๆค่ะ ไม่ใช่มิจฉาชีพเหมือนอย่างบางประเทศในยุโรป แต่ก็มีขอทานอีกกลุ่มที่ต้องระวังนั่นคือ คนยิปซี กลุ่มนี้จะไม่ได้นั่งขออยู่กับที่ แต่จะเดินเข้ามาถึงตัว และตื้อจนน่ารำคาญ แนะนำให้ระวังกระเป๋าและของมีค่าให้ดีเวลาที่คนยิปซีมาขอเงินค่ะ
6) ห้องน้ำ
ใน Tbilisi ห้องน้ำที่สะอาดและฟรี คือห้องน้ำในห้างเท่านั้น ส่วนห้องน้ำสาธารณะบางที่ยังเป็นส้วมหลุมก็มีค่ะ ปั๊มน้ำมันในตัวเมืองจะไม่มีห้องน้ำให้คนนอกเหมือนอย่างบ้านเรา จะมีตามปั๊มใหญ่ที่เป็นจุดพักรถนอกเมืองเท่านั้น เวลาไปเที่ยวต่างเมือง คนขับรถท้องถิ่นจะรู้ดีว่าห้องน้ำไหนสะอาดพอเข้าได้ แต่จำนวนห้องน้ำอาจจะไม่เพียงพอสำหรับกลุ่มคนจำนวนมาก ถ้าไปเที่ยวกลุ่มใหญ่ต้องทำใจรอกันหน่อยนะคะ (นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่แอดมินไม่รับทำทริปกลุ่มใหญ่)
7) ธรรมชาติ
มีรีวิวหลายแห่งโพสต์รูปธรรมชาติที่สวยสดใหม่ แต่สถานที่บางแห่งรถเข้าไม่ถึง ต้องเดินเท้าเข้าไปหลายกิโล บางแห่งไปเช้าเย็นกลับได้ บางแห่งต้องใช้เวลาเดินหลายวัน และยังมีเงื่อนไขเรื่องสภาพอากาศ เช่น ถ้าเจอฝนตก อาจจะมองไม่เห็นธารน้ำแข็ง หรือถ้าช่วงหิมะตกอาจจะเข้าไปไม่ได้ (บางหมู่บ้าน แม้แต่คนท้องถิ่น และสัตว์เลี้ยงก็อพยพลงที่ราบ ถ้าไปช่วงนั้นแล้วไม่เจอใครก็ไม่ต้องแปลกใจไปนะคะ) ดังนั้นก่อนตัดสินใจวางแผนไปเที่ยว ต้องพิจารณาความเป็นไปได้ว่า ร่างกายพร้อมเดินระยะไกลและชันแค่ไหน ถ้าไปช่วงฝนตกอาจจะทำให้ไม่เห็นวิวเหมือนภาพที่คนอื่นถ่ายกัน หรือถ้าคิดจะลุยหิมะพิจารณาว่ามีอุปกรณ์และความพร้อมเพียงใด ถ้าไปเที่ยวในบริเวณไม่มีผู้คนหรือนักท่องเที่ยวคนอื่น หากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นจะขอความช่วยเหลือจากที่ไหน
8) โรงแรม
เวลาจองโรงแรมตาม Booking.com ส่วนใหญ่จะเห็นแค่ภาพภายในโรงแรม แต่พอไปพบสภาพภายนอกแล้วอาจจะตกใจในความเก่า ที่พักบางแห่งภายในสวย สะอาดต่างจากภายนอกโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของที่นี่ค่ะ เวลาจองแนะนำให้พิจารณาจากรีวิว มีอีกเรื่องที่แอดมินจะแนะนำคือ เวลามองที่ตั้งโรงแรมใน Google Map อาจจะไม่ทราบว่าตั้งอยู่บนเนินเขาหรือไม่ หากท่านใดวางแผนที่จะเดินทางเข้าเมืองหลวงโดยรสบัสประจำทาง แอดมินแนะนำให้ใช้กระเป๋าเป้ แทนกระเป๋าล้อลาก เพราะถนนบางแห่งยังเป็นหินลูกเต๋าแบบยุโรปโบราณอยู่ และบางแห่งเป็นเนินเขาด้วย หรือไม่ก็แนะนำให้นั่งแท็กซี่จากสนามบินเข้าเมืองจะสะดวกกว่าใช้รถบัสค่ะ
9) สถาปัตยกรรม
จอร์เจียไม่ค่อยมีพระราชวัง หรือโบถส์ที่วิจิตรหรูหรา เนื่องจากจอร์เจียเป็นประเทศที่ถูกรุกรานมาตลอด สถาปัตยกรรมที่นี่จึงเน้นความแข็งแรง มั่นคง มากกว่าความวิจิตรหรูหรา สิ่งที่ท่านจะได้เห็นคือ โบสถ์เก่าแก่อายุพันปี ทีี่แข็งแรงด้วยโครงสร้างและศรัทธาที่เหนี่ยวแน่นของผู้คนตั้งแต่ครั้นศาสนาคริสต์หยั่งรากในอาณาไอบีเรียจวบจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นการไปชมโบสถ์แต่ละแห่ง จึงอยากให้ไปสัมผัสถึงความศรัทธาของผู้คนมากกว่าไปเพื่อถ่ายภาพเช็คอินค่ะ
10) อาหาร
อาหารที่นี่มีรสเค็ม ไม่มีรสชาติอื่นมาตัด และวิธีการปรุงอาหารที่หลากหลายเหมือนอาหารไทย ผักที่นี่มีอยู่ไม่กี่ชนิด อาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย (แอดมินเคยเอาตะไคร้มาปลูก 4 ต้น ตอนนี้เหลือต้นเดียว) อาหารบางเมนู แต่ละร้านก็อาจจะทำรสชาติต่างกัน มีทั้งที่อร่อยถูกปากคนไทย และแบบที่คนไทยกินไม่ได้เลย ใครกลัวทานอาหารท้องถิ่นไม่ได้ แนะนำให้ห่ออาหารสำเร็จรูปมา หรือจะทานที่ร้านอาหารไทยใน Tbilisi ก็ได้ค่ะ
แอดมินไม่ให้อยากตัดสินใจไปเที่ยวจอร์เจียเพียงเพราะเห็นว่าคนอื่นไป แต่อยากให้ไปเที่ยวเพราะต้องการเรียนรู้และสัมผัส “จอร์เจีย” ประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานสามพันปี มีภาษาเป็นของตัวเองซึ่งเป็นหนึ่งในภาษาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีความผสมผสานระหว่างยุโรปและเอเชีย มีธรรมชาติที่ยังสดใหม่ มีความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาคอเคซัสที่เคยเรียนในตำราภูมิศาสตร์ และเปิดโลกทัศน์เรียนรู้ความแตกต่างทางวัฒนธรรม จากที่กล่าวมาแอดมินหวังว่าจะทำให้ท่านได้รู้จักจอร์เจียมากขึ้นในอีกแง่มุมหนึ่ง และใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนเดินทางค่ะ
สนใจค่ะ
ว่าจะไปเที่ยวเอง แต่ละสถานที่คงไปลำบาก
ให้ความรู้ของประเทศเชิงลึกดีมากแบบ ตรงไปตรงมา