หลายท่านสอบถามพวกเราทุกวันว่าสถานการณ์ในจอร์เจียนั้นปลอดภัยสำหรับคนเอเชียที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือไม่? ผมจึงตัดสินใจเขียนโพสต์นี้ อันที่จริงผมจะเขียนในภาษาจอร์เจีย แต่เกรงว่า google อาจจะไม่แปลถูกต้อง ทำให้เข้าใจผิดได้ ผมจึงตัดสินใจใช้ภาษากลาง คือ ภาษาอังกฤษ แต่ถ้าคุณไม่เข้าใจบางสิ่งหรือมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามเป็นภาษาไทยในช่องแสดงความคิดเห็นได้นะครับ
สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาพอที่จะอ่านโพสต์ทั้งหมด ผมขอพูดสั้นๆ ว่า ไม่มีการบูลลี่ต่อนักท่องเที่ยวเอเชีย บุคลิกลักษณะของคนจอร์เจียนั้นไม่ใช่คนที่จะบูลลี่ใครๆ สำหรับคนที่เคยเดินทางมาเที่ยวจอร์เจียแล้ว คุณเคยเห็นการบูลลี่นักท่องเที่ยวรัสเซียบ้างไหม? กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักในจอร์เจียคือ ชาวรัสเซีย แต่มีบางท่านอาจจะไม่ทราบว่า 11 ปีที่ผ่านมามีสงครามเกิดขึ้นระหว่างจอร์เจียและรัสเซีย สงครามที่มีการใช้รถถัง ระเบิดและอื่น ๆ
20% ของดินแดนจอร์เจียยังถูกรัสเซียครอบครอง บางคนอาจพูดว่าจริงเหรอ ? ถ้ารัสเซียมีสงครามกับจอร์เจีย ทำไมคนจอร์เจียยังคงต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย มันจะเป็นไปได้อย่างไร ?
เป็นเรื่องจริงครับ สำหรับคนที่เคยเดินทางมาเที่ยวจอร์เจีย จะเห็นได้ว่า ไม่มีการเลือกปฏิบัติ หรือบริการที่แตกต่างกับนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากยุโรป รัสเซีย หรือเอเชีย
ชาวจอร์เจียเชื่อว่า แขกมาจากพระเจ้า การดูหมิ่นต่อแขก หมายถึง ไม่เคารพต่อพระเจ้า แม้ว่าจะมีศัตรูมาเป็นแขก นั่นหมายความว่ามีเหตุผลบางอย่างที่พระเจ้าส่งพวกเขามาให้เรา
ถ้าเหตุผลข้างต้นไม่เพียงพอ โปรดทราบว่าจอร์เจียเป็นประเทศที่เคร่งครัดในศาสนามากชาวจอร์เจียจึงพยายามอย่างดีที่สุดที่จะไม่ทำบาป แต่ฉันเข้าใจว่ามีคนที่ต้องการคำอธิบายที่ดีกว่านี้
เหตุการณ์จริงที่ผมจะเล่า จะทำให้คุณเข้าใจคนจอร์เจียมากขึ้นครับ
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถนนสายทหารของจอร์เจีย (ถนนที่เชื่อมต่อ Gudauri กับ Kazbegi) เป็นหนทางเดียวที่พันธมิตรจะส่งกองทหาร อุปกรณ์ และเครื่องจักรไปยังโซเวียต ถนนสายนี้มีปัญหาอย่างหนึ่ง คือ ถูกปิดเป็นเวลาหลายเดือนเนื่องจากหิมะตกหนัก แต่ในช่วงเวลาแห่งสงครามนั้นไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้ายมีเพียงถนนสายเดียวที่ควรใช้งานได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง โซเวียตจึงตัดสินใจสร้างอุโมงค์ ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือเวลาที่คุณเดินทางไปเมือง Kazbegi พวกเขานำเชลยเยอรมันจำนวนมากไปสร้างอุโมงค์ ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงและมีเวลาค่อนข้างจำกัด โซเวียตบังคับให้เชลยเยอรมันทำงานตลอด 24 ชั่วโมง อุโมงค์แห่งนี้ต้องเสร็จก่อนหิมะตก ทำให้เชลยหลายคนเสียชีวิตด้วยความเหนื่อยล้า
โซเวียตโยนศพเชลยทั้งหมดทิ้งเหมือนขยะ ผู้สูงวัยในเมือง Kazbegi ต่างมาขออนุญาตโซเวียตให้ฝังศพเชลยเหล่านี้ตามประเพณีดั้งเดิม โซเวียตรู้สึกประหลาดใจและตกใจกับคำขอดังกล่าว จึงกล่าวว่า: ชาวเยอรมันเหล่านี้เป็นศัตรูมาประเทศคุณเพื่อฆ่าพ่อแม่ ฆ่าลูก ๆ ของคุณ และฆ่าคุณ คนจอร์เจียตอบว่า: ใช่เรารู้ว่าพวกเขาเป็นศัตรูพวกเขามาเพื่อฆ่าพวกเราทุกคน แต่พวกเขายังเป็นคนและเราควรฝังพวกเขา …
สุสานเยอรมันอยู่ทางซ้ายห่างจากอนุสาวรีย์มิตรภาพประมาณ 2 กม. ท่านสามารถสังเกตได้จากไม้กางเขนอยู่บนยอดเขา นั่นคือ สุสานของทหารเยอรมันที่มาเป็นศัตรู แต่ก็ยังได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพ หากนี่เป็นสิ่งที่ชาวจอร์เจียปฏิบัติต่อศัตรูของเขา คุณสามารถจินตนาการได้ว่าชาวจอร์เจียจะปฏิบัติต่อแขกของเขาอย่างไร
จากที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าคุณมาเป็นกลุ่มหรือมาคนเดียว อย่าเปลี่ยนความคิด ทุกคนในจอร์เจียยินดีต้อนรับครับ
แอดมินคอส เขียน , แอดมินโบว์ แปล
ภาพประกอบจาก В. Майоров 2017г