เนื่องจากมีการระบาดในช่วงระลอกที่ 4 จึงมีมาตรการออกมาว่า ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม เป็นต้นไป
- บังคับให้สวมหน้ากากในพื้นที่เปิดที่มีการรวมกลุ่ม 5 คนขึ้นไป
- ทางการจอร์เจียได้ขยายรายชื่อประเทศที่สามารถเดินทางเข้าจอร์เจียได้โดยไม่ต้องฉีดวัคซีน ได้แก่ จอร์แดน เลบานอน และอิรัก
ส่วนรายชื่อประเทศที่ประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้คือ ประเทศในสหภาพยุโรป อิสราเอล ตุรกี สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน ยูเครน คาซัคสถาน รัสเซีย เบลารุส อุซเบกิสถาน ทาจิกิสถาน คีร์กีซสถาน เติร์กเมนิสถาน แคนาดา ญี่ปุ่น คูเวต จีน เกาหลีใต้ โอมาน มอลโดวา ซานมารีโน โมนาโก เซอร์เบีย ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ มอนเตเนโกร อันดอร์รา มาซิโดเนียเหนือ บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
พลเมืองและผู้ถือเรสซิเดนซ์ในประเทศเหล่านี้จะต้องลงทะเบียนก่อนเดินทาง ที่นี่ เมื่อผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองจะต้องแสดงผลตรวจ PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และเมื่ออยู่จอร์เจียครบสามวันจะต้องตรวจ PCR อีกครั้ง โดยใบรับรองการตรวจ PCR ต้องเป็นภาษาจอร์เจีย อังกฤษ หรือรัสเซียเท่านั้น
สำหรับนักท่องเที่ยวไทย ที่ไม่ได้ถือเรสซิเดนซ์ของประเทศที่กล่าวไปข้างต้น ต้องฉีดวัคซีนยี่ห้อใดก็ได้ครบสองครั้ง ( 1 ครั้งในกรณีที่ฉีดของ Johnson & Johnson) จึงจะสามารถเดินทางเข้าประเทศจอร์เจียได้หากยังไม่ได้รับวัคซีน มีวิธีที่สามารถเดินทางเข้าได้คือ
- เข้ามาในฐานะนักเรียนนักศึกษา https://www.geoconsul.gov.ge/en/newsFeed/nId/249
- เข้ามาประกอบธุรกิจ https://www.geoconsul.gov.ge/en/newsFeed/nId/225
- เข้ามาทำงานแบบ remote working https://www.geoconsul.gov.ge/en/newsFeed/nId/194